วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

ชีวิต คือ การลงทุน

       ชีวิตของคนเราไม่อาจปฏิเสธการลงทุนได้ ตอนเด็กเข้าเรียนก็ตั้งใจเรียน เรียนจบมา ได้ทำงานประจำ ใช้ทั้งแรง ใช้ทั้งความคิด ถือเป็นการลงทุนที่ไม่ใช้ตัวเงินทางหนึ่ง เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น ประสบการณ์เพิ่มขึ้น มีเงินทองเก็บมากขึ้น ก็มองหาช่องทางทำธุรกิจเป็นของตัวเอง มันไม่เรื่องง่ายสำหรับการลงทุนด้วยเงินเก็บมาครึ่งค่อนชีวิต


       ก้าวชีวิตของผมถือว่าโชคดีที่ได้มารู้จักการลงทุน ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยคิดจะสนใจสิ่งเหล้านี้มาก่อน จนมาได้ศึกษาเรื่องการลงทุนจากสายงานที่ตัวผมเองเป็นผู้รับชอบ ผมค้นคว้าด้วยตัวเอง และได้รับคำแนะนำจากเพื่อนร่วมงาน ทำให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนมากขึ้น



Photobucket

       ผมเริ่มสนใจการลงทุนมากขึ้น เมื่อนั่งคิดเปรียบเทียบถึงผลตอบแทนที่ได้รับจากการเงินฝากธนาคาร กับการลงทุนในหุ้นที่ผมกำลังศึกษาอยู่ จึงพบความแตกต่างของผลตอบแทนในทั้ง 2 อย่าง

       - เงินฝากธนาคารแบบออมทรัพย์ ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากอันน้อยนิด

       - การลงทุนในหุ้น ได้ผลตอบแทนถึง 2 ทาง คือ

       1. กำไรจากส่วนต่างของราคา เรียกว่า Capital Gain

       2. กำไรจากเงินปันผลของบริษัท เรียกว่า Dividend Yield



       ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2551 ผมเริ่มลงทุนด้วยเงินเก็บก้อนแรก ประสบการณ์ยังไม่มี แต่รู้ว่าการลงทุนด้วยหุ้นนั้นดี กลับกลายเป็นช่วงจังหวะที่โชคร้ายที่สุด เพราะเมื่อเริ่มลงทุนก็ขาดทุนเลย ปีนั้นได้เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger Crisis) ตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นช่วงขาลง เมื่อตลาดหุ้นไทยลงตาม หุ้นที่ผมเพิ่งซื้อไป ก็ขาดทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และด้วยความหวังเล็กๆ ที่เชื่อว่าราคาหุ้นจะกลับมาราคาเดิมจึงถือหุ้นไว้ แต่อนิจจาพอร์ตของผมมีแต่หุ้นเก็งกำไร จำได้ว่ามีหุ้นอยู่ตัวหนึ่งซื้อไว้ตอนราคา 9 บาท มันหล่นลงมาเหลือแค่บาทเดียว หลังจากนั้นราคามันไม่เคยกลับไปราคาเดิมเลย



Photobucket

       ในตอนนั้นเพื่อนร่วมงานให้ยืมให้หนังสือสอนเล่นหุ้นเล่มนึงมา ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เป็นผู้แต่ง ผมลองหยิบขึ้นมาอ่านเล่นๆ รู้สึกชื่นชอบสไตล์การลงทุนของท่านมาก สไตล์การลงทุนแบบ Value Investor (VI)


       ผมตัดสินใจขายหุ้นในพอร์ตที่ขาดทุนอยู่ทิ้งทั้งหมด แล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยซื้อหุ้นพื้นฐานที่ตอนนั้นคนส่วนใหญ่ยังไม่สนใจมากนัก หุ้นตัวแรกที่เริ่มซื้อถือไว้ยาวจนถึงปัจจุบัน คือ CPALL หรือ ร้าน 7-11 ที่หลายคนคุ้นเคย สาเหตุที่ซื้อเพราะดร.นิเวศน์ซื้อ เลยซื้อตาม แล้วชอบแนวความคิดของเจ้าสัวซีพีอยู่เป็นทุนเดิม



Photobucket

       ปัจจุบันเงินเก็บของผม ลงทุนในหุ้นพื้นฐานเกือบทั้งหมด และแนะนำสมาชิกในบ้านให้ร่วมลงทุนด้วย ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หลายคนคงไอเดียใหม่ๆ ในการลงทุนไม่มากก็น้อย


********************************************************************************

เพิ่มเติม

       Capital Gain คือ กำไรที่เกิดจากการขายหุ้น หลังหักจากต้นทุนแล้ว


       Dividend Yield คือ กำไรส่วนแบ่งจากบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่ หากบริษัทมีกำไรมากมีโอกาสจ่ายเงินปันผลมากตาม หากบริษัทขาดทุนมีโอกาสงดจ่ายเงินปันผลได้เช่นกัน



Photobucket

       Hamburger Crisis เหตุการณ์วิกฤตทางเศรษฐกิจที่มีสาเหตุมาจากบริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่หลายแห่งในอเมริกาล่มละลาย อาทิเช่น Lehman Brother เป็นต้น หลายคนเรียกว่า วิกฤตซับไพร์ม Sub Prime ก็คือ การปล่อยเงินกู้ของสหรัฐให้ลูกหนี้ที่มีเครดิตต่ำกว่ามาตรฐาน ใช้อสังหาริมทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ผลที่ตามมา คือ ลูกหนี้ส่วนใหญ่หนีหนี้ บริษัทหรือธนาคารที่ปล่อยเงินกู้ก็เลยเงินขาดมือ


       ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เป็นนักลงทุนในหุ้นอันดับ 1 ของไทย ผู้ปลุกแนวความคิดที่มุ่งเน้นในการลงทุนแบบเน้นคุณค่า และปลอดภัย เป็นผู้แปลหนังสือของวอร์เรน บัฟเฟตต์ เขียนบทความ และหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน



Photobucket

       Value Investor (VI) คือ หลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ซึ่งแนวความคิดการลงทุนสไตล์นี้ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลาย เพราะเป็นสไตล์การลงทุนของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เศรษฐีอันดับ 2 ของโลก โดยวิเคราะห์จากการประเมินมูลค่ากิจการ

- วิธีต้นทุนทดแทน (Replacement Cost)

- ความสามารถในการทำกำไร (Earning power Value)

- การเติบโตของบริษัท (Growth)





********************************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น