วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เทคนิค - การลากเส้น Trend Line


       หลายคนเข้าใจว่า หุ้นนั้นขึ้นลงไม่แน่นอน เมื่อวานราคาหุ้นตก แต่วันนี้ราคาหุ้นกลับขึ้น ทำให้ยากแก่การตัดสินใจ เครื่องมือตัวนึงที่น่าสนใจ นั่นก็คือ เส้น Trend Line ซึ่งช่วยให้เราสามารถตีกรอบของราคาหุ้น เพื่อทราบทิศทางความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นได้




       จุดประสงค์หลักของการลากเส้น Trend Line ประกอบที่กราฟ คือ ช่วยให้เห็นภาพรวมของตลาดชัดเจนมากขึ้น


       หลักการลากเส้น Trend Line คือ ลากเส้นตรงจากด้านซ้ายไปด้านขวา โดยกำหนดจุดเริ่มต้นเป็นจุดสูงสุด หรือจุดต่ำสุด ไปจุดถัดไป หากเส้นตรงที่ลากผ่านจุดหลายจุด ยิ่งทำให้เส้น Trend Line เส้นนั้น มีความสำคัญมากขึ้นอีกด้วย



********************************************************************************

ทำไมต้องลากเส้น Trend Line ที่จุดสูงสุด หรือจุดต่ำสุด ?


       นิยามของ Trend Line คือ ในช่วงเวลานึง ราคาหุ้นเคลื่อนไหวไปมาภายในกรอบอย่างสม่ำเสมอ อาจจะเป็นในแนวราบ หรือมีความชันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การใช้จุดสูงสุด หรือจุดต่ำสุด มาเป็นจุดผ่านในการลากเส้น Trend Line นั้น เพราะจุดสำคัญเหล่านั้นล้วนแต่เคยเป็นจุดกลับตัวมาก่อน เราจึงคาดเหตุการณ์ว่า บริเวณแนวเส้น Trend Line อาจเป็นจุดกลับตัวใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต


       การลากเส้น Trend Line ด้านบน และด้านล่าง คือ การสร้างแนวรับ - แนวต้าน ให้กับราคาหุ้น เปรียบสมือนกับ ราคาหุ้น คือ ลูกปิงปอง , แนวรับ คือ พื้นห้อง และแนวต้าน คือ เพดานห้อง


       ภายในห้องสี่เหลี่ยม เมื่อเราโยนลูกปิงปองขึ้นข้างบนสุดแรง ลูกปิงปองจะพุ่งขึ้นชนเพดานห้อง ก่อนจะตกลงสู่พื้นห้อง เมื่อตกลงสู่พื้นห้องแล้ว ลูกปิงปองก็จะเด้งจากพื้นพุ่งขึ้นชนเพดานอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกว่าลูกปิงปองนั้นจะค่อยๆหมดแรงลงที่พื้น


       ภายในห้องสี่เหลี่ยม เมื่อเราปาลูกปิงปองลงพื้นสุดแรง ลูกปิงปองจะเด้งลงพื้นห้อง ก่อนจะพุ่งขึ้นชนเพดานห้อง เมื่อชนเพดานห้องแล้ว ลูกปิงปองก็จะตกลงสู่พื้นห้องอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกว่าลูกปิงปองนั้นจะค่อยๆหมดแรงลงที่พื้น




       ข้อดีของการลากเส้น Trend Line คือ ทำให้เรามองเห็นว่าแนวโน้มเป็นไปในทิศทางใด และเมื่อราคาทะลุกรอบเส้น Trend Line ยังช่วยทำให้ทราบว่า ราคาหุ้นมีแนวโน้มที่ชัดเจนมากขึ้น หรือกำลังจะเปลี่ยนทิศทาง




********************************************************************************

เครื่องมือสำหรับการลากเส้น Trend Line มีดังนี้


       เส้น Trend Line ใช้สำหรับการลากเส้น Trend Line


       วิธีใช้งาน คลิกซ้ายที่ไอคอนรูปเส้น Trend Line หรือแท่งดินสอ เมื่อคลิกเสร็จแล้วไอคอนที่เม้าส์จะเปลี่ยนเป็นรูปแท่งดินสอ ให้นำไอคอนเม้าส์รูปแท่งดินสอไปวางในตำแหน่งจุดที่ต้องการ แล้ว Drag เม้าส์(การคลิกซ้ายค้างแล้วลากเม้าส์) ไปยังจุดถัดไปที่ต้องการ ก็จะได้เส้น Trend Line ออกมา




       หากเป็นแนวโน้มขาขึ้น ให้ลากเส้น Trend Line จากจุดสูงสุดที่ต้องการไปหาจุดสูงสุดถัดไปที่สูงกว่า และจุดต่ำสุดที่ต้องการไปหาจุดต่ำสุดถัดไปที่สูงกว่า


       หากเป็นแนวโน้มขาลง ให้ลากเส้น Trend Line จากจุดสูงสุดที่ต้องการไปหาจุดสูงสุดถัดไปที่ต่ำกว่า และจุดต่ำสุดที่ต้องการไปหาจุดต่ำสุดถัดไปที่ต่ำกว่า


       หากเป็นแนวโน้ม Side Way ให้ลากเส้น Trend Line จากจุดสูงสุดที่ต้องการไปหาจุดสูงสุดถัดไปที่เท่ากัน และจุดต่ำสุดที่ต้องการไปหาจุดต่ำสุดถัดไปที่เท่ากัน




********************************************************************************

       Parallel Line เป็นการสร้างเส้น Trend Line เส้นใหม่ในลักษณะขนานกันกับเส้น Trend Line เส้นแรก


       วิธีใช้งาน เมื่อลากเส้น Trend Line เสร็จ ให้กดปุ่ม Parallel Line จะได้เส้น Trend Line เส้นใหม่ ให้จัดวางในตำแหน่งที่ต้องการ




       คำแนะนำในการลากเส้น Trend Line สามารถลากเส้น Trend Line กี่เส้นก็ได้ แต่ก็ไม่ควรลากเส้น Trend Line มากจนเกินไป ให้ลากเส้น Trend Line ที่สำคัญๆ โดยเฉพาะจุดสูงสุด(เส้น Trend Line ด้านบน) และจุดต่ำสุด(เส้น Trend Line ด้านล่าง)



********************************************************************************

วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เทคนิค - ดูแนวโน้มด้วยกราฟ


ความสำคัญของกราฟ ?


       กราฟ เป็นการนำข้อมูลทางสถิติอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน กราฟช่วยทำให้มองเห็นภาพรวมในอดีตที่เคยเกิดขึ้น แล้วนำมาวิเคราะห์แนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้น ในวงการเศรษฐศาสตร์ การเงิน รวมถึงการลงทุนในหุ้น ล้วนใช้กราฟในการดูแนวโน้มในตลาด


คุ้มค่าไหม หากเราสามารถดูแนวโน้มด้วยกราฟเป็น ?


       การดูแนวโน้มด้วยกราฟ เป็นเรื่องที่หลายคนมองว่า ไม่ใช่สิ่งที่ดูกันง่ายๆ มองในแง่ดีของการดูแนวโน้มด้วยกราฟเป็น คือ ความรู้ตรงนี้จะติดตัวไปตลอด ไม่ว่าจะเห็นกราฟที่ไหน ก็มองแนวโน้มได้ด้วยตัวเอง กลายเป็นจุดเด่นขึ้นมาเลยใช่ไหมล่ะ



แนวโน้มมีกี่รูปแบบ ?


       แนวโน้มแบ่งตามทิศทางได้ 2 รูปแบบ คือ แนวโน้มที่มีทิศทาง และแนวโน้มที่ไร้ทิศทาง

       แนวโน้มที่มีทิศทาง สามารถแบ่งย่อยลึกลงไปอีกได้ 2 ลักษณะ ได้แก่



       แนวโน้มขาขึ้น มีจุดสังเกตดังนี้ ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีจุดสูงสุดที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งจุดต่ำสุดที่ยกตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า " Up Trend "


       นอกจากดูแนวโน้มขาขึ้นแล้ว ควรดูระดับความชันของกราฟ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้้ที่สำคัญอีกด้วยว่า แนวโน้มขาขึ้นอยู่ในระยะไหน




       หากความชันของกราฟใกล้เคียงรูปซ้ายมือ แสดงว่า แนวโน้มขาขึ้นเพิ่งเริ่มขึ้น เป็นจังหวะที่ควรเข้าซื้อหุ้นมากที่สุด

       หากความชันของกราฟใกล้เคียงรูปกลาง แสดงว่า แนวโน้มขาขึ้นเข้าสู่ระยะกลาง เป็นจังหวะที่ควรซื้อหุ้นน้อยลง เนื่องจากเริ่มเป็นที่รู้จักของตลาดมากขึ้น


       หากความชันของกราฟใกล้เคียงรูปขวามือ แสดงว่า แนวโน้มขาขึ้นใกล้สิ้นสุด เป็นจังหวะที่ไม่ควรซื้อหุ้นแล้ว หรือถ้าจำเป็นซื้อหุ้นจำเป็นต้องเข้าไวออกไว มักจะมีข่าวดีประกาศออกมามากมาย


********************************************************************************



       แนวโน้มขาลง มีจุดสังเกตดังนี้ ราคาปรับตัวลดลงเรื่อยๆ มีจุดสูงสุดที่ลดลง รวมทั้งจุดต่ำสุดที่ปรับตัวลดลงด้วยเช่นกัน เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า " Down Trend "

       นอกจากดูแนวโน้มขาลงแล้ว ควรดูระดับความชันของกราฟ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้้ที่สำคัญอีกด้วยว่า แนวโน้มขาลงนอยู่ในระยะไหน




       หากความชันของกราฟใกล้เคียงรูปซ้ายมือ แสดงว่า แนวโน้มขาลงเบาบาง พิจารณาดูว่า ใกล้ถึงจุด Cut Loss หรือยัง หากยังให้คอยเฝ้าระวัง

       หากความชันของกราฟใกล้เคียงรูปกลาง แสดงว่า แนวโน้มขาปานกลาง เมื่อราคาตกลงมาถึงจุด Cut Loss ควรทะยอยขายหุ้นออกเรื่อยๆ


       หากความชันของกราฟใกล้เคียงรูปขวามือ แสดงว่า แนวโน้มขาลงรุนแรง มักเกิดขึ้นบ่อยๆ ในช่วงที่มีข่าวเกี่ยวกับธุรกิจนั้นขาดทุน ผลประกอบการไม่ดี รวมถึงวิกฤตทางเศรษฐกิจ ในระยะดังกล่าว ไม่ควรซื้อหุ้นตัวนั้นเพิ่ม ควรรอให้เข้าสู่ระยะเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นเสียก่อน


********************************************************************************




       แนวโน้มที่ไร้ทิศทาง มักจากพบบ่อยในช่วงที่ตลาดกำลังรอข่าว หรือรออะไรบางอย่างอยู่ มีจุดสังเกตดังนี้ ราคาเคลื่อนไหวในทิศทางขึ้นลงลงช่วงแคบๆ จุดสูงสุด และจุดต่ำสุดมีการเคลื่อนไหวในลักษณะคล้ายฟันปลา เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า " Side Way "



       แนวโน้มไร้ทิศทาง เป็นจังหวะที่ราคาหุ้นค่อนข้างนิ่ง หลายคนพิจารณาพื้นฐานของหุ้นที่ดี แล้วใช้โอกาสนี้ทะยอยซื้อหุ้นเก็บได้เหมือนกัน แล้วรอจนแนวโน้มที่แท้จริงปรากฏ


********************************************************************************