วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

ฤดูกาลจ่ายเงินปันผล


       หลังจากได้เรียนรู้เรื่องการเลือกหุ้นที่มีผลตอบแทนด้วยการให้เงินปันผลกันไปบ้างแล้ว คราวนี้จะอธิบายถึงการดูความถี่ของหุ้นที่ให้เงินปันผล ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันไป โดยปกติแล้วที่เราทราบกันดีว่า ช่วงเวลาที่เราจะได้รับเงินปันผล ซึ่งผมมักจะเรียกว่า "ฤดูกาลจ่ายเงินปันผล" ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ไปจนสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม ตรงกับช่วงเวลาเดียวกันที่บริษัทได้จัดการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีนั่นเอง


- หุ้นที่ให้เงินปันผล ปีละ 1 รอบ
พบได้ในหุ้นส่วนใหญ่ ภายใน 1 ปีก็ให้เงินปันผลปีละ 1 ครั้ง


- หุ้นที่ให้เงินปันผล ปีละ 2 รอบ
พบได้ในหุ้นส่วนใหญ่ ภายใน 1 ปีก็ให้เงินปันผลปีละ 2 ครั้ง หรือให้เงินปันผลทุกๆ 6 เดือน


- หุ้นที่ให้เงินปันผล ปีละ 3 รอบ
พบได้น้อยมาก ภายใน 1 ปีก็ให้เงินปันผลปีละ 3 ครั้ง หรือให้เงินปันผลทุกๆ 4 เดือน


- หุ้นที่ให้เงินปันผล ปีละ 4 รอบ
พบมากในหุ้นกลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ภายใน 1 ปีก็ให้เงินปันผลปีละ 4 ครั้ง หรือให้เงินปันผลทุกๆ 3 เดือน เหมาะสมนักลงทุนไม่มีชอบรอนานๆ


- หุ้นที่ให้เงินปันผลระหว่างกาล (รอบพิเศษ)
พบไม่บ่อยครั้ง ขึ้นอยู่กับปีนั้นบริษัทมีกำไรมาก จึงแบ่งส่วนกำไรที่ได้นั้น มาให้ผู้ถือหุ้นเป็นเงินปันผลพิเศษ


- หุ้นที่ให้หุ้นปันผล (บริษัทต้องการเพิ่มปริมาณหุ้นในตลาด เพื่อขยายขนาดธุรกิจ)
พบไม่บ่อยครั้ง เท่าที่ผมเห็นคงจะมีหุ้น HMPRO นี่แหละที่แจกหุ้นปันผลแทนเงินปันผลเป็นประจำเกือบทุกปี


       ปล. ผู้เขียนไม่มีเจตนาในการส่งเสริมให้ซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง เพียงยกตัวอย่างเปรียบเทียบ เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านจะได้รับสาระความรู้ไม่มากก็น้อย สำหรับผู้อ่านมีความรู้ความเข้าใจอยู่แล้ว จะได้เป็นการทบทวนความรู้เดิม ขอให้ทุกคนโชคดีในการลงทุน ขอบคุณครับ

********************************************************************************

วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556

เงินปันผล


       เงินปันผล(Dividend Yield) คือ ผลตอบแทนอีกช่องทางนึงจากการซื้อหุ้น นักลงทุนบางส่วนอยากได้กำไรเร็วๆ จากส่วนต่างของราคา(Capital Gain) เพราะได้รับกำไรทันทีเมื่อขายหุ้น (ดูรายละเอียดเพิ่มเติม)

       สำหรับนักลงทุนที่กำลังแสวงหาความมั่นคงในการลงทุน และต้องการสะสมหุ้นที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ควรเลือกลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า "ลงทุนหุ้นตัวไหนดี ถึงจะได้เงินปันผล" ลองมาเนื้อหาด้านล่างกัน เผื่อได้คำตอบที่ค้นหา



เงินปันผลมาจากไหน ?

       ธุรกิจที่มีผลประกอบการดี มีกำไรหักต้นทุนค่าใช้จ่ายออกไปแล้ว เมื่อเราซื้อหุ้นตัวนั้น แล้วถือหุ้นจนขึ้นเครื่องหมายได้รับสิทธิ์ XD ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลตามนโยบายของบริษัทได้กำหนด


ข้อดีของการซื้อหุ้นที่การจ่ายเงินปันผล คือ เมื่อเราซื้อหุ้นไปแล้ว มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลไปเรื่อยๆ ทุกปี จนกว่าจะขายหุ้นออก 

       หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เช่น เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตก หุ้นที่ซื้อไว้มีโอกาสสูงที่จะตกตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเราเลือกซื้อหุ้นที่ตัวบริษัทมีความมั่นคงทางธุรกิจไว้บางส่วน ในช่วงเวลานั้นเราก็ยังได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลกลับคืนมาบ้าง ถึงจะน้อยกว่าปีก่อนๆ เพราะได้กำไรลดลง เมื่อบริษัทผ่านพ้นวิกฤตไปได้ บริษัทกลับมามีกำไรดังเดิม เงินปันผลที่ได้รับก็กลับมาด้วยเช่นกัน



วิธีเช็คเงินปันผลจากเว็บไซต์ www.settrade.com

- เข้าเว็บไซต์ www.settrade.com

- พิมพ์ชื่อย่อของหุ้นในช่อง "ค้นหาข้อมูลหลักทรัพย์" กดปุ่ม Enter

- เลือกแถบ "สิทธิประโยชน์ผู้ถือหุ้น"




ความแตกต่างของหุ้นที่จ่ายเงินปันผล และหุ้นที่ไม่จ่ายเงินปันผล

- ตัวอย่าง หากซื้อหุ้น CPF ได้เงินปันผลทุกปีอย่างสม่ำเสมอ และมีโอกาสได้รับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ถ้าซื้อหุ้นในจังหวะที่เหมาะสม มีโอกาสได้กำไรจากส่วนต่างของราคาอีกด้วย

- ตัวอย่าง หากซื้อหุ้น SSI ไม่มีเงินปันผลใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ช่องทางของผลตอบแทนเหลือเพียงช่องทางเดียว คือ กำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อขายเท่านั้น



รู้ได้ยังไงว่าบริษัทจะให้เงินปันผลเท่าไหร่ ?

       บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ มีนโยบายการให้เงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นที่ระบุไว้อย่างชัดเจน โดยคิดจากกำไรสุทธิของบริษัทที่หักภาษีแล้ว

       จุดสังเกตในการดูเงินปันผล เช็คว่าบริษัทนั้นมีนโยบายให้เงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นเท่าไหร่ ยิ่งมากยิ่งดี บริษัททั่วไปมีนโยบายให้เงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นประมาณ 40% ของกำไรสุทธิ หากต่ำกว่านั้นถือว่าบริษัทนั้นไม่ให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้น บางบริษัทอาจจะให้เงินปันผลสูงเกิน 100% ของกำไรสุทธิเลยก็มี หรือไม่ให้เงินปันผลเลยก็มี

       อย่างไรก็ตามเมื่อเลือกบริษัทที่ให้เงินปันผลเป็นที่พอใจแล้ว ควรพิจารณาราคาหุ้นในปัจจุบันประกอบด้วย


       ปล. ผู้เขียนไม่มีเจตนาในการส่งเสริมให้ซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง เพียงยกตัวอย่างเปรียบเทียบ เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านจะได้รับสาระความรู้ไม่มากก็น้อย สำหรับผู้อ่านมีความรู้ความเข้าใจอยู่แล้ว จะได้เป็นการทบทวนความรู้เดิม ขอให้ทุกคนโชคดีในการลงทุน ขอบคุณครับ


********************************************************************************

วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556

ปฏิทินหลักทรัพย์

       วิธีเช็คสเตตัสหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมายได้รับสิทธิ์ต่างๆ สามารถเช็คผ่านปฏิทินหลักทรัพย์ผ่านทางเว็บไซต์ www.set.or.th หรือ www.settrade.com ได้

       ประโยชน์ของปฏิทินหลักทรัพย์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการติดตามว่า ภายในเดือนมีหุ้นตัวไหนบ้างที่ขึ้นเครื่องหมายได้รับสิทธิ์ เพียงแค่คลิกชื่อหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมายก็สามารถดูรายละเอียดได้แล้ว


วิธีเปิดจากเว็บไซต์ www.set.or.th มีดังนี้

- เข้าเว็บไซต์ www.set.or.th คลิกปุ่ม Enter

- เลือกแถบข้อมูลบริษัท/หลักทรัพย์ > ตราสารทุน > ปฏิทินหลักทรัพย์



       เมื่อขึ้นหน้าต่างปฏิทินหลักทรัพย์ของเดือนล่าสุด หากจะเลือกข้อมูลของเดือนก่อน หรือเดือนถัดไปก็ได้ ในตารางจะบอกหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมายได้รับสิทธิ์ภายในเดือน สามารถคลิกเลือกหุ้นที่ต้องการได้เลย  จะขึ้นหน้าต่างบอกรายละเอียดของหุ้นตัวที่เลือก ดูตัวอย่างได้จากรูปด้านบน

********************************************************************************


วิธีเปิดจากเว็บไซต์ www.settrade.com มีดังนี้

- เข้าเว็บไซต์ www.settrade.com คลิกปุ่ม Enter

- เลือกแถบข้อมูลการซื้อขาย > ปฏิทินหลักทรัพย์




       เมื่อขึ้นหน้าต่างปฏิทินหลักทรัพย์ของเดือนล่าสุด หากจะเลือกข้อมูลของเดือนก่อน หรือเดือนถัดไปก็ได้ ในตารางจะบอกหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมายได้รับสิทธิ์ภายในเดือน สามารถคลิกเลือกหุ้นที่ต้องการได้เลย  จะขึ้นหน้าต่างบอกรายละเอียดของหุ้นตัวที่เลือก ดูตัวอย่างได้จากรูปด้านบน

********************************************************************************

วิธีดูปฏิทินหลักทรัพย์

- ดูว่าภายในเดือนนี้มีหุ้นที่ถือตัวไหนบ้างที่ขึ้นเครื่องหมายได้รับสิทธิ์

- ไม่แนะนำให้ซื้อหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมายได้รับสิทธิ์ในช่วงใกล้ๆขึ้นเครื่องหมาย ด้วยเหตุผล เพราะอยากได้เงินปันผล หรืออยากได้รับสิทธิ์ต่างๆ เพราะเมื่อถึงวันขึ้นเครื่องหมายแล้ว ราคาหุ้นอาจจะตกทันที เท่ากับเงินปันผลที่ได้รับ ในบางกรณีอาจจะตกมากกว่า แนะนำควรซื้อก่อนขึ้นเครื่องหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน

- โดยปกติบริษัทจะแจ้งเรื่องการขึ้นเครื่องหมายได้รับสิทธิ์ล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน เพื่อเปิดโอกาสให้เวลาสำหรับนักลงทุนได้ตัดสินใจ พึ่งระวังการขึ้นเครื่องหมายได้รับสิทธิ์อย่างกระทันหันของหุ้นบางบริษัท ซึ่งทำให้เวลาในการตัดสินใจน้อยลงมาก



ตัวอย่างในรูป เครื่องหมาย XD ของหุ้น BTS ขึ้นเครื่องหมายวันที่ 24 เดือนมกราคม 2556 จ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 เดือนกุมภาพันธ์ 2556 หุ้นละ 0.163 บาท(0.147 บาทหลังหัก VAT10%)

********************************************************************************