วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สเตตัสของหุ้น ตอนที่ 2


       นอกจากสเตตัสของหุ้นที่มีผลต่อการซื้อขาย และมีผลมาจากการส่งงบการเงินล่าช้าแล้ว ยังมีสเตตัสของหุ้นอีกประเภทที่เกิดจากการได้รับสิทธิ์เมื่อถือหุ้นในช่วงเวลาที่บริษัทกำหนด ในเมื่อเราเป็นผู้ถือหุ้นแล้ว ควรรู้ถึงสิทธิ์ต่างๆที่ควรได้รับ



สิทธิ์ที่ได้รับจากการถือหุ้นสำคัญไฉน ?

       สำหรับนักลงทุนหลายคนที่เคยซื้อขายหุ้น บางคนไม่ได้สนใจเรื่องสิทธิ์ที่ได้รับเมื่อได้ถือหุ้น ทำให้พลาดโอกาสสำคัญๆ บางอย่าง เช่น บริษัทจัดประชุมผู้ถือหุ้นแล้วไม่ได้ไปร่วม บริษัทกำหนดจ่ายเงินปันผลแล้วขายหุ้นออกไปก่อน บริษัทให้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ หรือไม่เข้าใจว่าความหมายของเครื่องหมายที่ขึ้นมา เป็นต้น




********************************************************************************

เช็คว่าหุ้นที่เราถืออยู่มีโอกาสได้รับสิทธิ์อะไรบ้าง ?



วิธีเช็คผ่านเว็บไซต์ SET

- เข้าเว็บไซต์ของ www.set.or.th


- พิมพ์ตัวย่อของหุ้นที่มุมบนขวาในกรอบสีน้ำเงินตามรูปด้านบน กดปุ่ม Enter


- เลือกหัวข้อ " ข้อมูลสิทธิ์ประโยชน์ "


ในตารางข้อมูลสิทธิ์ประโยชน์ แบ่งออกเป็น 3 ช่อง ดังนี้

ส่วนที่ 1 - วันขึ้นเครื่องหมาย คือ ต้องถือหรือซื้อหุ้นก่อน 1 วัน จึงจะได้รับสิทธิ์นั้น

ส่วนที่ 2 - เครื่องหมาย สามารถเช็คความหมายจากตารางชื่อย่อของเครื่องหมายด้านบน

ส่วนที่ 3 - รายละเอียด ข้อมูลจะแตกต่างตามประเภทของเครื่องหมาย ดังต่อไปนี้



********************************************************************************


รายละเอียดของเครื่องหมาย XM

- วันปิดสมุดทะเบียน คือ วันที่ทางบริษัทปิดสมุดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิ์

- วันที่ประชุม คือ วันเวลาที่บริษัทกำหนดประชุมผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นสามารถไปร่วมการประชุมในวันนั้น จะใช้สิทธิ์ไปร่วมประชุมด้วยตัวเอง หรือมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปร่วมประชุมแทนก็ได้

- หัวข้อการประชุม คือ วาระการประชุมที่แจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบล่วงหน้า

- หมายเหตุ คือ ข้อมูลสถานที่จัดการประชุมผู้ถือหุ้น

       ผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิ์จากเครื่องหมาย XM จะได้รับเอกสารแจ้งการประชุมผู้ถือหุ้นส่งมาที่บ้าน



รายละเอียดของเครื่องหมาย XD


- วันปิดสมุดทะเบียน คือ วันที่ทางบริษัทปิดสมุดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิ์

- วันจ่ายปันผล คือ วันที่ทางบริษัทกำหนดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น เงินปันผลที่ได้รับจะส่งมาให้ผู้ถือหุ้นในวันนั้น


- เงินปันผล(บาท/หุ้น) คือ เงินกำไรส่วนที่บริษัทแบ่งให้แก่ผู้ถือหุ้นในรอบนั้น อาทิเช่น เงินปันผล(บาท/หุ้น) = 0.36 หมายถึง หากถือหุ้นจำนวน 20,000 หุ้น จะมีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลจำนวน 7,200 บาท (หลังจากหัก VAT 10% ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินสุทธิเป็นจำนวน 6,480 บาท)

- รอบผลประกอบการ คือ เงินปันผลจากกำไรของผลประกบการในช่วงเวลาดังกล่าว



       *หมายเหตุ เครื่องหมาย XD(ST) บริษัทจดทะเบียนให้หุ้นปันผลแทนเงินปันผล หรืออาจจะให้ทั้งหุ้นปันผล และเงินปันผลพร้อมๆกัน

       ยกตัวอย่าง กรณีของ CPALL ที่ให้หุ้นปันผล 1 : 1 และเงินปันผล 1.25 บาท/หุ้น แก่ผู้ถือหุ้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่บริษัทแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบ เมื่อถึงวันขึ้นเครื่องหมายดังกล่าว ราคาหุ้นจะปรับตัวลดลง เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนหุ้นปันผลที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง

       ผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิ์จากเครื่องหมาย XD จะได้รับเช็คเงินปันผลส่งมาที่บ้าน สามารถนำไปขึ้นเป็นเงินสดที่ธนาคาร หรือได้รับเป็นเงินสดโอนเข้าบัญชีธนาคาร



รายละเอียดของเครื่องหมาย XW

- วันปิดสมุดทะเบียน คือ วันที่ทางบริษัทปิดสมุดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิ์

- วันที่จองซื้อ (หากไม่ทราบให้ดูจากเอกสารที่ตลาดหลักทรัพย์แจ้งมา หรือโทรสอบถามกับเจ้าหน้าที่กมาร์เก็ตติ้งของโบรกเกอร์ที่เราเปิดบัญชีอยู่)

- ราคาจองซื้อ (หากไม่ทราบให้ดูจากเอกสารที่ตลาดหลักทรัพย์แจ้งมา หรือโทรสอบถามกับเจ้าหน้าที่มาร์เก็ตติ้งของโบรกเกอร์ที่เราเปิดบัญชีอยู่)

       อัตราส่วนการจองซื้อ คือ สิทธิ์ในการจองซื้อวอแรนต์ อ้างอิงจากจำนวนหุ้นที่ถือเดิม อาทิเช่น อัตราส่วนการจองซื้อ = 2.5 : 1 หมายถึง หากถือหุ้นจำนวน 2.5 หุ้น มีสิทธิ์จองซื้อวอแรนต์จำนวน 1 หุ้น (คิดง่ายๆ ถือหุ้นจำนวน 5 หุ้น มีสิทธิ์จองซื้อวอแรนต์จำนวน 2 หุ้น) สมมุติเรามีหุ้นตัวนั้นจำนวน 5,000 หุ้น จะมีสิทธิ์จองซื้อวอแรนต์จำนวน 2,000 หุ้น เป็นต้น

       *หมายเหตุ ในบางครั้งเครื่องหมาย XW บริษัทจดทะเบียนอาจจะให้วอแรนต์แก่ผู้ถือหุ้นฟรี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่บริษัทแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบ

       ผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิ์จากเครื่องหมาย XW จะได้รับเอกสารแจ้งการจองซื้อวอแรนต์ของหุ้นตัวนั้นส่งมาที่บ้าน หากสนใจใช้สิทธิ์จองซื้อวอแรนต์ ให้กรอกข้อมูล พร้อมกับโอนเงินค่าจองซื้อวอแรนต์ส่งกลับบริษัทหุ้นตัวนั้น หรือไม่สนใจใช้สิทธิ์จองซื้อวอแรนต์ก็ได้




รายละเอียดของเครื่องหมาย XR

- วันปิดสมุดทะเบียน คือ วันที่ทางบริษัทปิดสมุดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิ์

- วันที่จองซื้อ คือ ช่วงเวลาที่ผู้ถือหุ้นเดิม สามารถจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้

- ราคาจองซื้อ ตามปกติราคาจองซื้้อหุ้นเพิ่มทุนจะต่ำกว่าราคาหุ้นในช่วงเวลานั้น

       อัตราส่วนการจองซื้อ คือ สิทธิ์ในการจองซื้อวอแรนต์ อ้างอิงจากจำนวนหุ้นที่ถือเดิม อาทิเช่น อัตราส่วนการจองซื้อ = 4 : 1 หมายถึง หากถือหุ้นจำนวน 4 หุ้น มีสิทธิ์จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1 หุ้น สมมุติเรามีหุ้นตัวนั้นจำนวน 5,000 หุ้น จะมีสิทธิ์จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1,250 หุ้น เป็นต้น

       ผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิ์จากเครื่องหมาย XR จะได้รับเอกสารแจ้งการจองซื้้อหุ้นเพิ่มทุนของหุ้นตัวนั้นส่งมาที่บ้าน หากสนใจใช้สิทธิ์จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ให้กรอกข้อมูลพร้อมกับโอนเงินค่าจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนส่งกลับบริษัทหุ้นตัวนั้น หรือไม่สนใจใช้สิทธิ์จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนก็ได้



********************************************************************************

สเตตัสที่มีผลมาจากการได้รับสิทธิ์

- หุ้นที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย " XM " หากถือหุ้นอยู่จนขึ้นเครื่องหมายดังกล่าว ผู้ถือหุ้นมีสิทธิ์เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นตามที่บริษัทกำหนด ตามปกติแล้วบริษัทจดทะเบียนจัดการประชุมผู้ถือหุ้นอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อรายงานผลประกอบการของปีที่ผ่านมา , เป้าหมายการขยายธุรกิจภายในปีนี้ , การเลือกคณะกรรมการผู้บริหารของบริษัท รวมทั้งนโยบายการจ่ายเงินปันผล

       ในบางครั้งบริษัทอาจมีการจัดประชุมในวาระพิเศษ อาทิเช่น การออกหุ้นเพิ่มทุน และการออกหุ้นกู้ เป็นต้น ผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมการประชุมมีสิทธิ์ออกเสียงได้ตามจำนวนหุ้นที่ถือ 1 หุ้น : 1 เสียง รวมทั้งมีสิทธิ์ซักถามข้อสงสัยกับคณะกรรมการผู้บริหารโดยตรง



       ข้อดีของการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น ทำให้ทราบถือผลประกอบการของปีที่ผ่านมา , วิสัยทัศน์ การตอบข้อซักถามของคณะกรรมการผู้บริหาร , เป้าหมายการขยายธุรกิจภายในปีนี้

       *หมายเหตุ เมื่อถือหุ้นจนขึ้นเครื่องหมายดังกล่าวแล้ว ผู้ถือหุ้นได้ขายหุ้นออก สิทธิ์ที่ได้รับก็ยังคงอยู่ในรอบที่เพิ่งขึ้นเครื่องหมายไป




********************************************************************************

- หุ้นที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย " XD " หากถือหุ้นอยู่จนขึ้นเครื่องหมายดังกล่าว ผู้ถือหุ้นมีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลตามที่บริษัทกำหนด บริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจมีกำไร จำเป็นต้องแบ่งกำไรบางส่วนคืนกลับมาให้ผู้ถือหุ้น ตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัท



       ข้อดีของการซื้อหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผล สมมุติว่า มีเงินลงทุนในระยะยาว ได้ซื้้อหุ้น A ราคาหุ้นละ 100 บาท มีการจ่ายเงินปันผลปีละ 10 บาท แล้วบริษัทมีกำไรเท่าเดิมต่อเนื่อง 10 ปี จ่ายเงินปันผล 10 ปีสม่ำเสมอ เมื่อถือหุ้นไว้จนครบ 10 ปี ได้รับเงินปันผลเป็นจำนวน 10*10 = 100 บาท เข้าสู่จุดคุ้มทุน ในปีถัดไปเงินปันผลที่ได้รับจะกลายเป้นเงินได้เปล่า หรือที่หลายๆ คน เรียกว่า " หุ้นห่านทองคำ " นั่นเอง

       บริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจขาดทุนต่อเนื่อง จะไม่มีการขึ้นเครื่องหมาย " XD " ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่มีกำไร 



********************************************************************************

- หุ้นที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย " XW " หากถือหุ้นอยู่จนขึ้นเครื่องหมายดังกล่าว ผู้ถือหุ้นมีสิทธิ์จองซื้อวอแรนต์ตามที่บริษัทกำหนด บริษัทจดทะเบียนที่ต้องขยายธุรกิจ จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก


       วอแรนต์ คือ ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ที่ทางบริษัทออกให้ ส่วนใหญ่มีอายุไม่เกิน 3 ปี ราคาวอแรนต์จะถูกกว่าราคาหุ้น โดยวอแรนต์สามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นได้ แต่ต้องใช้เงินสด เพื่อแปลงสภาพ ช่วงเวลาในการใช้สิทธิ์แปลงสภาพวอแรนต์เป็นหุ้น ขึ้นอยู่กับที่บริษัทกำหนด


       ชื่อย่อของวอแรนต์ จะใช้ชื่อย่อของหุ้น ตามด้วยเครื่องหมายขีดตัวอักษร W และตัวเลขต่อท้าย อาทิเช่น CCP-W1 , TSF-W2 , BLAND-W3 และ CGS-W5 เป็นต้น




ตัวอย่างในรูป วอแรนต์ของหุ้น TSF ชื่อ TSF-W2


- กำหนดใช้สิทธิ์แปลงสภาพวอแรนต์เป็นหุ้น ทุกวันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ , เดือนพฤษภาคม , เดือนสิงหาคม และเดือนพฤศจิกายนของทุกปี

- กำหนดใช้สิทธิ์แปลงสภาพวอแรนต์เป็นหุ้นครั้งแรก ในวันที่ 31 สิงหาคม 2555

- กำหนดใช้สิทธิ์แปลงสภาพวอแรนต์เป็นหุ้นครั้งสุดท้าย ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2558

- อัตาราการใช้สิทธิ์แปลงสภาพวอแรนต์เป็นหุ้น คือ วอแรนต์ จำนวน 1 หุ้น แปลงสภาพเป็นหุ้น จำนวน 1 หุ้น

- ราคาที่ใช้แปลงสภาพวอแรนต์เป็นหุ้น คือ จ่ายเงินค่าแปลงสภาพหุ้นละ 0.30 บาท 


       *ข้อควรระวัง ข้อจำกัดเรื่องอายุของวอแรนต์ หากไม่แปลงสภาพในช่วงที่สามารถแปลงสภาพเป็นหุ้น เมื่ออายุของวอแรนต์สิ้นสุดลง วอแรนต์นั้นจะมูลค่ากลายเป็น ศูนย์ ทันที


- หุ้นที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย " XR " หากถือหุ้นอยู่จนขึ้นเครื่องหมายดังกล่าว ผู้ถือหุ้นมีสิทธิ์จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามที่บริษัทกำหนด

       บริษัทจดทะเบียนที่ต้องขยายธุรกิจ จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก การออกหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นรายเดิมสามารถซื้อหุ้นเพิ่ม เป็นอีกวิธีที่บริษัทส่วนใหญ่นิยมใช้กัน แทนที่จะบริษัทต้องกู้เงินจากสถาบันการเงินแล้วจ่ายดอกเบี้ย บริษัทเลือกที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นถือหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น



       หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นักลงทุนทุกท่านคงได้ประโยชน์จากความรู้เรื่องการใช้สิทธิ์ที่ได้รับจากการขึ้นเครื่องหมายของหุ้นที่ถือไม่มากก็น้อย อาจประยุกต์ไปใช้เป็นแนวทางในการคัดกรองหาหุ้นที่ดีของแต่ละคน



********************************************************************************

วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สเตตัสของหุ้น ตอนที่ 1


       การขึ้นเครื่องหมายของหุ้น เป็นการบ่งบอกสเตตัสของหุ้นตัวนั้น ทำให้ทราบว่า ปัจจุบันหุ้นตัวนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทั้งด้านบวก และด้านลบ ดังนั้นนักลงทุนควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการขึ้นเครื่องหมายของหุ้น และผลกระทบที่จะตามมา หลังจากเกิดการขึ้นเครื่องหมายแล้ว


สเตตัสที่มีผลต่อการซื้อขายหุ้น

       - หุ้นที่ไม่มีการขึ้นเครื่องหมายใดๆ แสดงว่า หุ้นตัวนั้นอยู่สถานะปกติ สามารถซื้อขายหุ้นได้ตามปกติ

       - หุ้นที่มีการขึ้นเครืองหมาย " DS " บ่งบอกว่า หุ้นตัวนั้นอยู่ในช่วงผิดปกติ มีการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นที่รุนแรง อาจเกิดจากการเก็งกำไรในระยะสั้นๆ หากต้องการซื้อขายหุ้นดังกล่าวจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และจำเป็นต้องวางเงินสดในการซื้อขายหุ้นเท่านั้น

       - หุ้นที่มีการขึ้นเครื่องหมายพักการซื้อขายชั่วคราว มี 3 ประเภท คือ

1. หุ้นที่มีการขึ้นเครื่องหมาย " H " มีสาเหตุมาจากข้อมูล หรือข่าวลือที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นที่รุนแรง จนทางตลาดหลักทรัพย์สั่งพักการซื้อขายชั่วคราว รอจนกว่าทางบริษัทจดทะเบียนจะชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนเสียก่อน อาทิเช่น การเข้าซื้อหุ้นจำนวนมากของนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทนั้น เป็นต้น

2. หุ้นที่มีการขึ้นเครื่องหมาย " SP " มีสาเหตุมาจากทางบริษัทจดทะเบียนยังไม่ได้ส่งงบการเงินแก่ตลาดหลักทรัพย์

3. หุ้นที่มีการขึ้นเครื่องหมาย " NC " มีสาเหตุมาจากทางตลาดหลักทรัพย์สั่่งพักการซื้อหุ้นชั่วคราว เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนเข้าข่ายอยู่ในช่วงฟื้นฟูกิจการตามคำสั่งศาล



       ตลาดหลักทรัพย์ได้กำหนดให้บริษัทจดทะเบียน ต้องส่งงบการเงิน และรายงายฐานะทางการเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ เพื่อก่อให้เกิดความโปร่งใสในตัวบริษัท สร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน โดยรายงานดังกล่าวต้องแจ้งภายใน 90 วันหลังจากสิ้นสุดแต่ละไตรมาส (ทุก 3 เดือน)

       ตัวอย่างเช่น เมื่อสิ้นสุดไตรมาสที่1 (Q1) คือ วันที่ 31 เดือนมีนาคม บริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่ส่งงบการเงินให้แก่ตลาดหลักทรัพย์ ก่อนวันที่ 15 เดือนพฤษภาคม (ภายใน 90 วัน) หากไม่ส่งงบการเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด หุ้นของบริษัทจดทะเบียนจะถูกขึ้นเครื่องหมายพักการซื้อขายชั่วคราว เป็นต้น


สเตตัสที่มีผลมาจากการส่งงบการเงินล่าช้า

       - หุ้นส่งงบการเงินทันภายในระยะเวลาที่กำหนด จะไม่ถูกขึ้้นเครื่องหมาย สามารถซื้อขายหุ้นได้ตามปกติ

       - หุ้นที่ส่งงบการเงินไม่ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถูกขึ้นเครื่องหมาย " NP " ซึ่งในระหว่างนี้ยังคงสามารถซื้อขายหุ้นได้

       - หุ้นที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย " NP " ติดต่อกันนาน 5 วัน จะถูกขึ้นเครื่องหมาย " SP " แทน หมายถึง ถูกพักการซื้อขายชั่วคราว จนกว่าบริษัทจดทะเบียนจะส่งงบการเงินแก่ตลาดหลักทรัพย์

       - หุ้นที่ถูกขึ้นเครื่อง " NP " และ " SP " อยู่ ภายหลังทางบริษัทจดทะเบียนส่งงบการเงินแก่ตลาดหลักทรัพย์ จะถูกขึ้นเครื่องหมาย " NR " ชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 วัน ก่อนจะกลับมาการซื้อขายหุ้นได้เหมือนเดิม


       ประโยชน์ที่ได้รับจากการดูสเตตัสของหุ้น ทำให้เราเข้าใจเหตุการณ์ ณ ปัจจุบัน และเลือกจะตัดสินได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้หุ้นที่อดีตเคยมีประวัติถูกขึ้นเครื่องหมายบ่อยๆ เราอาจจะหลีกเลี่ยงจากหุ้นเหล่านั้น แล้วเลือกที่จะมองหาหุ้นที่มีประวัติดี ในตลาดหุ้นมีหุ้นมากมาย ดังนั้นการกรองหุ้นด้วยการดูจากสเตตัส จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเข้าไปซื้อหุ้นในบริษัทที่กำลังประสบปัญหาทางการเงิน และมีความไม่โปร่งใส ปิดบังข้อมูลความจริงได้อีกช่องทางหนึ่ง


********************************************************************************

วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

แนวโน้มการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ



       แนวโน้มการซื้อขายของกลุ่มนักลงทุน ช่วยทำให้รู้ถึงทิศทางของตลาดหุ้นว่า ณ ตอนนี้ มีสภาพเป็นยังไง เมื่อเห็นภาพรวมของตลาดหุ้นชัดเจนแล้ว จะได้ตัดสินใจ หุ้นที่ถืออยู่ควรจะถือต่อดี ? หรือเริ่มขายดี ? แล้วถ้ายังไม่มีหุ้นอยากซื้อหุ้นจะเสี่ยงไหม ? ถ้าใช้งานจนคล่องจะเป็นประโยชน์อย่างมาก 

       ดูแนวโน้มการซื้อขาได้ที่ >>> WWW.SET.OR.TH สามารถดูสรุปมูลค่าการซื้อขายสิ้นวัน ที่ด้านขวาของหน้าเว็บไซต์ ดังตัวอย่างภายในกรอบสีเหลี่ยมสีแดง ซึ่งจะเป็น สรุปมูลค่าการซื้อขายภายในวันนั้น หากต้องการดูรายละเอียดมากขึ้น ให้คลิกปุ่ม " เพิ่มเติม>>> " (ตำแหน่งกรอบสี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน)


       เมื่อคลิกปุ่ม " เพิ่มเติม>>> " ก็จะเข้ามาสู่หน้า " สรุปมูลค่าการซื้อขายตามกลุ่มนักลงทุน " ภายในหน้านี้เป็นตารางสรุปมูลค่าการซื้อขายตามกลุ่มนักลงทุน 3 ตาราง ได้แก่ สรุปการซื้อขายภายในวัน , สรุปการซื้อขายสะสมในช่วงภายในเดือน และสรุปการซื้อขายสะสมในช่วงภายในปี


คำอธิบายเกี่ยวกับประเภทกลุ่มนักลงทุนในตาราง

- สถาบันในประเทศ(Institution) คือ กลุ่มนักลงทุนประเภทกองทุนรวม หรือบริษัทต่างๆ

- บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(Proprietary) คือ กลุ่มโบรกเกอร์ที่มีพอร์ตลงทุน โดยมี ป็อปเทรด เป็นผู้ดูแล

- นักลงทุนต่างประเทศ(Foreign) คือ กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ

- นักลงทุนทั่วไปในประเทศ(Individual) คือ กลุ่มนักลงทุนรายย่อย อย่างพวกเรา


* ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มนักลงทุน >>> คลิกที่นี่


       กลุ่มที่เราจะให้ความสำคัญในการดูเป็นพิเศษ คือ กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ เพราะเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นมากที่สุด

       ข้อดีของการดูสรุปการซื้อขายของกลุ่มนักลงทุน คือ ทำให้ทราบว่า ณ ปัจจุบัน และที่ผ่านมา แต่ละกลุ่มมีการซื้อขาย รวมถึงการสะสมหุ้นในพอร์ตมากน้อยแค่ไหน แล้วได้ขายออกมาจำนวนเท่าไหร่แล้ว

********************************************************************************



       ในตารางแรก คือ สรุปการซื้อขายภายในวัน (ยกตัวอย่าง ณ วันที่ 30 พ.ย. 2555)

       เมื่อดูในช่องการซื้อขายสุทธิของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ (ช่องไฮไลท์สีชมพู) จะพบว่า " ภายในวันนี้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติมีปริมาณการซื้อหุ้น 43,535 ล้านบาท และมีปริมาณการขายหุ้น 39,683 ล้านบาท " หรือสรุปสั้นๆ ว่า " ภายในวันนี้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ มีปริมาณการซื้อเข้ามากกว่าการขายออก "

       เมื่อเราดูเปรียบเทียบกับกราฟ SET ภายในวัน โดยเริ่มจากราคา 1,314 จุด และสิ้นสุดที่ราคา 1,324 จุด สรุปได้ว่า " ภายในวันนี้กราฟ SET มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางของลูกศรสีชมพูที่ลากไว้ตามรูปด้านบน สอดคล้องกับสรุปการซื้อขายภายในวันของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ "

       เมื่อเข้าใจแนวโน้มภายในวันแล้ว ช่วยทำให้การตัดสินใจภายในวันได้ อยากถือหุ้นยาวกว่านี้จำเป็นต้องดูภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น นั่นคือ สรุปการซื้อขายภายในเดือน

********************************************************************************



       ในตารางที่สอง คือ สรุปการซื้อขายภายในเดือน (ยกตัวอย่าง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ถึง 30 พ.ย. 2555)

       เมื่อดูในช่องการซื้อขายสุทธิของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ (ช่องไฮไลท์สีชมพู) จะพบว่า " ภายในเดือนนี้นักลงทุนต่างชาติมีปริมาณการซื้อหุ้น 235,907 ล้านบาท และมีปริมาณการขายหุ้น 229,733 ล้านบาท " หรือสรุปสั้นๆ ว่า " ภายในเดือนนี้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ มีปริมาณการซื้อเข้ามากกว่าการขายออก ยังคงสะสมหุ้นไว้ในพอร์ตอยู่ "

       เมื่อเราดูเปรียบเทียบกับกราฟ SET ภายในเดือน โดยเริ่มจากราคา 1,298 จุด และสิ้นสุดที่ราคา 1,324 จุด สรุปได้ว่า " ภายในเดือนนี้กราฟ SET มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามเส้นแนวนอนสีน้ำเงินที่ลากไว้ เพื่อให้เห็นว่าราคา SET มีการปรับสูงขึ้นกว่าต้นเดือนตามรูปด้านบน สอดคล้องกับสรุปการซื้อขายภายในเดือนของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ "

       เมื่อเข้าใจแนวโน้มภายในเดือนแล้ว ช่วยทำให้การตัดสินใจภายในเดือนได้ อยากถือหุ้นยาวกว่านี้จำเป็นต้องดูภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น นั่นคือ สรุปการซื้อขายภายในปี

********************************************************************************



       ในตารางที่สุดท้าย คือ สรุปการซื้อขายภายในปี (ยกตัวอย่าง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 30 พ.ย. 2555)

       เมื่อดูในช่องการซื้อขายสุทธิของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ (ช่องไฮไลท์สีชมพู) จะพบว่า " ภายในปีนี้นักลงทุนต่างชาติมีปริมาณการซื้อหุ้น 1,785 พันล้านบาท และมีปริมาณการขายหุ้น 1,732 พันล้านบาท " หรือสรุปสั้นๆ ว่า " ภายในปีนี้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ มีปริมาณการซื้อเข้ามากกว่าการขายออก ยังคงสะสมหุ้นไว้ในพอร์ตอยู่ "

       เมื่อเราดูเปรียบเทียบกับกราฟ SET ภายในปี โดยเริ่มจากราคา 1,036 จุด และสิ้นสุดที่ราคา 1,324 จุด สรุปได้ว่า " ภายในปีนี้กราฟ SET มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางของลูกศรสีชมพูที่ลากไว้ตามรูปด้านบน สอดคล้องกับสรุปการซื้อขายภายในปีของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ "


       สรุปจากการซื้อขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติทั้งสามตารางได้คร่าวๆ ว่า นักลงทุนต่างชาติมีปริมาณการซื้อเข้ามากกว่าการขายออก ยังคงสะสมหุ้นไว้ในพอร์ตอยู่ถึงแม้เวลาจะผ่านเกือบปีแล้วก็ตาม ใครที่ซื้อหุ้นไว้เมื่อตอนต้นปี แล้วตอนนี้ยังไม่ได้ขาย มีโอกาสได้กำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้น (กรณีที่หุ้นตัวนั้น มีแนวโน้มเดียวกับตลาดหุ้น)


********************************************************************************