วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทำความรู้จักกับพอร์ตลงทุน

       บัญชีเงินสด (Cash) เป็นบัญชีที่ต้องวางเงินสดส่วนหนึ่งเป็นหลักประกัน โดยสามารถซื้อหุ้นได้มากกว่าเงินสดที่มีอยู่ในพอร์ตลงทุน ทางโบรกเกอร์กำหนดวงเงินสูงสุดให้ (เหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ลงทุนแล้ว)

       ระบบ ATS (Automatic Transfer System) ใช้กับบัญชีเงินสด ระบบจะตัดเงินในบัญชีเท่ากับจำนวนเงินที่ซื้อ (บวกค่าคอมแล้ว) โดยอัตโนมัติ หลังจาก 3 วันทำการ (T+3) ดังตัวอย่าง




       ซื้อหุ้นวันพุธ จำนวนเงิน 10,000 บาท (บวกค่าคอมแล้ว) จำเป็นต้องโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคารให้ครบตามจำนวนเงินที่ซื้อหุ้น ภายในวันจันทร์ (ไม่นับวันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดราชการ) ก่อนเวลา 15:30 น. หากมีเงินสดค้างอยู่ในบัญชีเกินจำนวนเงินที่ซื้อหุ้น ก็ไม่จำเป็นต้องโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแต่อย่างใด





       ขายหุ้นวันพุธ จำนวนเงิน 10,000 บาท (หักค่าคอมแล้ว) ระบบจะโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคารให้ครบตามจำนวนเงินที่ขาย ภายในวันจันทร์ (ไม่นับวันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดราชการ) ก่อนเวลา 11:00 น.





       ซื้อ และขายหุ้นภายในวันพุธ จำนวนเงิน 10,000 บาท (หักค่าคอมแล้ว) ไม่จำเป็นต้องโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแต่อย่างใด ระบบจะโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคารให้ครบตามจำนวนเงินที่ขาย ภายในวันจันทร์ (ไม่นับวันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดราชการ) ก่อนเวลา 11:00 น.





       ซื้อหุ้นวันพุธ และขายหุ้นวันศุกร์ จำนวนเงิน 10,000 บาท (หักค่าคอมแล้ว) จำเป็นต้องโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคารให้ครบตามจำนวนเงินที่ซื้อหุ้น ภายในวันจันทร์ (ไม่นับวันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดราชการ) ก่อนเวลา 15:30 น. หากมีเงินสดค้างอยู่ในบัญชีเกินจำนวนเงินที่ซื้อหุ้นก็ไม่จำเป็นต้องโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแต่อย่างใด และระบบจะโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคารให้ครบตามจำนวนเงินที่ขาย ภายในวันพุธ (ไม่นับวันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดราชการ) ก่อนเวลา 11:00 น.

       ข้อดี - หากใช้เงินลงทุนในวงเงินสูงสุด ลงทุนในหุ้นแล้วได้กำไรสม่ำเสมอ ขนาดพอร์ตจะเติบโตไวมาก และเหมาะกับผู้ที่ต้องการรายการ Statement เพื่อใช้โชว์สำหรับขอเครดิตต่างๆ

       ข้อเสีย - ระวังเรื่องการซื้อหุ้นเกินจำนวนเงินที่วางเป็นหลักประกัน แล้วเกิดลืม หรือหมุนเงินสดไม่ทัน

       หมายเหตุ - กรณีซื้อหุ้นแล้ว โอนเงินสดเข้าบัญชีไม่ครบจำนวนเงินที่ซื้อหุ้น หรือล่าช้ากว่ากำหนด ทางโบรกเกอร์จะเรียกเก็บดอกเบี้ยเพิ่ม



********************************************************************************

       บัญชี Cash Balance เป็นบัญชีที่มีวงเงินเท่ากับเงินสดที่วางไว้ในพอร์ตลงทุน และเมื่อขายหุ้น จำนวนเงินที่ขายหุ้นจะยังค้างอยู่ในพอร์ตลงทุน ทำให้สามารถซื้อขายหุ้นได้เรื่อยๆ (แนะนำนักลงทุนมือใหม่)



       ในกรณีที่เงินสดคงเหลือที่วางไว้ในพอร์ตลงทุนหมด จำเป็นต้องขายหุ้นที่ซื้อไว้ก่อน หรือโอนเงินสดเพิ่มจากบัญชีธนาคารเข้าสู่พอร์ตลงทุน (การโอนเงินสดเพิ่มเข้าในพอร์ตลงทุนควรทำก่อนเวลา 11:00 น. และการโอนเงินสดกลับสู่บัญชีธนาคาร ใช้ระบบ T+3)

       ข้อดี - ควบคุมการซื้้อหุ้นในวงเงินที่จำกัด ป้องกันการกรอกราคา และจำนวนหุ้นผิด

       ข้อเสีย - สามารถซื้อหุ้นได้ในวงเงินที่มีอยู่อย่างจำกัด



********************************************************************************

       อัตราค่าคอมมิชชั่น มี 2 รูปแบบ คือ


       - ค่าคอมมิชชั่นแบบคิดขั้นต่ำ 53 บาท (บวก VAT 7% แล้ว) ต่อวัน

       - ค่าคอมมิชชั่นแบบคิดตามการซื้อขายหุ้นจริง แบ่งได้ 2 แบบ คือ



       ส่งคำสั่งผ่านมาร์เก็ตติ้ง เป็นการโทรแจ้งให้มาร์เก็ตติ้งเป็นฝ่ายตั้งคำสั่งซื้อขายหุ้นให้ คิดค่าคอม 1 คำสั่งในอัตรา 0.25% ของจำนวนเงินที่ซื้อขายหุ้น บวก VAT 7% ของค่าคอม

       ข้อดี - รวดเร็ว และแม่นยำ

       ข้อเสีย - ค่าคอมสูงกว่าแบบส่งคำสั่งเองผ่านอินเตอร์เน็ต


       ส่งคำสั่งผ่านอินเตอร์เน็ต (Internet Trading) เป็นระบบซื้อขายหุ้นออนไลน์ผ่านโปรแกรมซื้อขายหุ้นของโบรกเกอร์ คิดค่าคอม 1 คำสั่งในอัตรา 0.15% ของจำนวนเงินที่ซื้อขายหุ้น บวก VAT 7% ของค่าคอม

       ข้อดี - ค่าคอมถูกกว่าแบบส่งคำสั่งผ่านมาร์เก็ตติ้ง

       ข้อเสีย - ระวังเรื่องส่งคำสั่งผิดพลาด อาจจะเกิดจากตั้งใจจะขายแล้วเผลอตั้งคำสั่งซื้อ หรือใส่ตัวเลขราคา หรือจำนวนหุ้นผิด

       หมายเหตุ - การซื้อหุ้น 1 ตัว ถือเป็น 1 คำสั่ง(ค่าคอมคิดจากจำนวนเงินที่ซื้อหุ้น) และการขายหุ้น 1 ตัว(ค่าคอมคิดจากจำนวนเงินที่ขายหุ้น) ถือเป็นอีก 1 คำสั่ง ดังนั้นเมื่อซื้อ และขายหุ้น จึงถือเป็น 2 คำสั่ง ในกรณีส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นพร้อมกันหลายตัว คิดค่าคอมแยกตามหุ้นเป็นตัวๆ



********************************************************************************